ก็ไม่รู้นักข่าวนึกอะไรขึ้นมาเหมือนกันนะครับ จู่ๆถึงได้ยิงคำถามเชิงเปรียบเทียบระหว่าง ลิโอนล เมสซี่ ยอดกองหน้าของทีมบาร์เซโลน่ากับมาริโอ เกิทเซ่ ดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมเสือใต้เข้าใส่กุนซือทีมเสือใต้ บาร์เยิร์น มิวนิคอย่าง โจเซ่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้าตัวจึงตอบกลับไปแบบชัดเจนเลยว่าระหว่าง เกิทเซ่ กับ เมสซี่ ไม่ควรถูกหยิบยกนำมาเปรียบเทียบกัน ทั้งนี้เป๊ปอธิบายต่อไปว่าลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน อะไรประมาณนั้นน่ะครับ
แต่สำหรับ มาริโอ เกิทเซ่ นั้นเพิ่งจะเริ่มเส้นทางของการก้าวขึ้นมาสู่การเป็นนักเตะชั้นยอด โดยเพิ่งจะเริ่มเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคได้ฤดูกาลแรกเท่านั้น และอายุก็เพิ่งจะ 21 ปี จึงยากที่จะทำให้ได้ถึงระดับเมสซี่ในเวลานี้ แต่ว่าเกิทเซ่ก็สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้ดี พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกในอนาคต และตนเองก็พร้อมช่วยให้เกิทเซ่ได้พัฒนาก้าวขึ้นมาอีกระดับนึงเช่นกัน ส่วนข่าวคราวอื่นๆของบาเยิร์น มิวนิคล่าสุดนี้ก็มีในส่วนของผลการแข่งขันเกมบุนเดสลีกาที่พวกเขาเป็นบ้านรับการมาเยือนของราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 ซึ่งผลออกมาเป็นบาเยิร์นที่ไล่ถล่มทีมเยือนไปถึง 5-1 โดยประตูแรกได้จากการยิงฟรีคิกของดาบิด อลาบาที่ไปแฉลบ กำแพงของชาลเก้ 04 เปลี่ยนทางเข้าประตู
ประตูที่สองได้จากการยิงแบบเหนือชั้นของอาร์เยน ร็อบเบน ประตูที่สามได้จากลูกโหม่งของมาริโอ มันซูคิซ ประตูที่สี่ เป็นอาร์เยน ร็อบเบนที่มาเบิ้ลสกอร์ที่สองของตัวเองในเกมนี้ จากนั้นเป็นชาลเก้ 04 ที่มาได้ประตูตีไข่แตกจากการสกัดบอลพลาดของราฟินญ่า ต่อด้วยปิดท้ายประตูที่ 5 ของเสือใต้จากจุดโทษของอาร์เยน ร็อบเบน ส่งผลให้เกมนี้ร็อบเบนทำแฮตทริกได้ด้วย และแน่นอนว่าในส่วนของตารางคะแนนบาเยิร์น มิวนิคยังคงนำแบบทิ้งห่างคู่แข่งสบายๆต่อไป